สารบัญ
ใครที่ได้รับ บัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 บ้าง?
ในการลงทะเบียนบัตรคนจนเดือนมีนาคมนั้น ผู้ที่ได้รับสิทธิคนจนต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่รัฐกำหนด นั่นคือเป็นคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สัญชาติไทย มีสถานะว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หากมีทรัพย์สินทางการเงิน ก็จะต้องมีมูลค่าไม่เกิน 1 แสนบาทในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งอีกด้วย นอกจากนี้ ผู้สมัครบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 จะต้องไม่เป็นข้าราชการ ผู้ได้รับการอนุเคราะห์จากรัฐ นักบวช และผู้ต้องหา สำหรับใครที่สนใจข้อมูลของบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ว่าเงินบัตรคนจนเดือนนี้ได้กี่บาท แล้วบัตรคนจน 2566 มีรอบโอนเงินอย่างไร รวมถึงกดเงินสดได้ไหม ท่านก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ได้จากแหล่งข่าวออนไลน์ที่เชื่อถือได้นั่นเอง และหากใครที่ลงทะเบียนไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบสถานะบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ก็ควรไปตรวจสอบหรือเช็คโดยทันทีก่อนที่จะถึงวันใช้สิทธิ์
บัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 คุ้มหรือไม่คุ้ม มาวิเคราะห์กัน
เป็นคำถามที่มีการถกเถียงกันพอสมควร กับประเด็นที่ว่าบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 คุ้มไหม เพราะดูเหมือนว่าวงเงินบัตรคนจนเดือนมีนาคมต่อคนก็อาจไม่ได้เยอะเหมือนกับโครงการอื่น ๆ อย่างเช่น โครงการเราชนะ หรือโครงการคนละครึ่งในอดีต แต่ถ้าวิเคราะห์กันด้วยหลักเหตุผลแล้ว กล่าวได้ว่าบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 และบัตรคนจน 2566 ของเดือนอื่น ๆ ค่อนข้างที่จะคุ้มค่าอย่างมาก เพราะอย่างน้อยผู้ลงทะเบียนบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือดอกเบี้ยแต่อย่างใด ในขณะที่ในเดือนมีนาคม ก็สามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐชำระสินค้าและบริการกับทางร้านค้าสวัสดิการแห่งรัฐได้เลย อนึ่ง ไม่ได้มีแค่เดือนมีนาคมแค่เดือนเดียวเท่านั้น แต่เดือนอื่น ๆ ต่อจากนี้ ผู้ถือบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ก็ยังได้รับสิทธิประโยชน์จากบัตรคนจนมีนาคมอยู่ ฉะนั้น จากการวิเคราะห์บัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ก็กล่าวได้เลยว่าคุ้มค่ากับการสมัครเป็นอย่างมาก
บัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 โอนเงิน 3 วันแบบจุก ๆ
บัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 เป็นโครงการที่เติมเต็มสภาพคล่องให้กับคนที่มีรายได้น้อย เข้าข่ายกลุ่มคนจน ซึ่งบัตรคนจนเดือนนี้จะโอนเงินถึง 3 วันด้วยกัน นั่นคือรอบโอนเงินวันที่ 1 มีนาคม โดยผู้ถือบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 จะได้วงเงินซื้อสินค้า 200-300 บาท วงเงินค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ 1,500 บาท และส่วนลดก๊าซหุงต้ม 45 บาท ส่วนในรอบโอนเงินรอบที่สอง คือวันที่ 18 มีนาคม โดยผู้ถือบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 จะได้เงินช่วยเหลือค่าไฟ 315 บาท และได้เงินช่วยเหลือค่าน้ำอีก 100 บาท และสำหรับวันสุดท้ายอย่างวันที่ 22 มีนาคม ผู้ได้สิทธิ์บัตรคนจนเดือนมีนาคมจะได้เงินเบี้ยคนพิการอีก 200 บาท ซึ่งถ้าถามว่าในภาพรวมแล้วบัตรคนจนเดือนนี้ได้กี่บาท ก็กล่าวได้ว่าได้เต็มที่ราว 2,500 บาทนั่นเอง อีกทั้งคาดการณ์ได้ว่าในเดือนถัดไป ผู้มีบัตรคนจน 2566 ก็ยังได้รับวงเงินเยียวยาในเรทประมาณนี้อยู่
รีวิวบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 โครงการที่ knock everything เพื่อกลุ่มคนรายได้น้อย
“เพราะเงินเท่านั้น ที่ knock everything” เนื้อเพลงยอดฮิตที่โด่งดังในชั่วข้ามคืน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเงินที่จำเป็นต่อการใช้ในชีวิต ซึ่งสำหรับโครงการบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 และบัตรคนจน 2566 เดือนอื่น ๆ ก็เปรียบได้กับโครงการที่ knock everything เพื่อกลุ่มคนรายได้น้อยเช่นกัน เนื่องจากบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 มีเงินบัตรคนจนที่พร้อมเติมเต็มและเยียวยาแก่คนที่รายได้น้อย โดยวงเงินบัตรคนจนจะครอบคลุมทั้งด้านการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าเดินทาง ค่าน้ำและค่าไฟ สำหรับใครที่สนใจสมัครโครงการบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 จะต้องตรวจสอบหรือเช็คคุณสมบัติตัวเองก่อนด้วยว่าเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของรัฐหรือไม่ เป็นต้นว่าผู้ลงทะเบียนบัตรคนจนเดือนมีนาคม ต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และที่สำคัญต้องมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือว่างงานในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง และหากใครที่สงสัยว่าบัตรดังกล่าวใช้ในการกดเงินสดได้ไหม ก็ตอบได้ว่าสามารถกดเงินสดจากบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ได้เฉพาะในส่วนที่เป็นวงเงินค่าน้ำค่าไฟ และเบี้ยผู้พิการ
เมื่อ GDP ปี 2565 โตแค่ 2.6% แล้วทิศทางของบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 จะเป็นอย่างไรต่อ
รู้หรือไม่ว่าในปี 2565 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจโดยรวม หรือที่เรียกว่า GDP โตแค่ 2.6% เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศ แต่คำถามสำคัญคือ เมื่อเป็นเช่นนี้ โครงการบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 หรือสิทธิคนจนนับต่อจากนี้ยังคงมีอยู่ไหม ซึ่งถ้าเราพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ก็คงคาดการณ์ได้ว่าบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 และเงินบัตรคนจนในเดือนอื่น ๆ ยังคงมีอยู่ เพราะกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยจะยิ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ คนกลุ่มนี้จะหางานยากขึ้น อีกทั้งยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สูงขึ้น ทำให้โครงการบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 หรือมาตรการบัตรคนจนมีนาคมปี 2023 มีความจำเป็นอยู่นั่นเอง ส่วนใครที่มีคำถามว่าบัตรคนจนเดือนนี้ได้กี่บาท ก็ประมาณการได้คร่าว ๆ ว่าท่านจะได้รับไม่เกิน 2,500 บาทต่อเดือน
บัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 โครงการดีจาก ๆ ภาครัฐที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ
กล่าวได้ว่าประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งดินแดนที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำในเรื่องของรายได้ และสภาพความเป็นอยู่ของผู้คน โดยอาจกล่าวได้อีกว่าในประเทศไทย มีสัดส่วนของคนที่มีรายได้น้อยติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ ด้วยเหตุนี้ ภาครัฐจึงมีโครงการบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ของบัตรคนจน 2566 เพื่อให้กลุ่มคนที่มีรายได้น้อย มีเงินจับจ่ายใช้สอยนั่นเอง โดยผู้ที่ได้รับสิทธิ์บัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 หรือเป็นคนที่ใช้เงินบัตรคนจนกับทางร้านค้าสวัสดิการแห่งรัฐได้ จะต้องเป็นคนที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี หรือว่างงาน นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ต้องไม่ได้เป็นข้าราชการ หรือบุคคลที่ได้รับการอนุเคราะห์จากภาครัฐมาก่อน โดยรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขบัตรคนจนเดือนนี้ค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร ท่านสามารถเข้าไปเช็คและตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งได้ที่เว็บไซต์บัตรคนจนมีนาคมในช่องทางออนไลน์
สามารถดูข่าวบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ได้บนเว็บไซต์หลักและสื่อมวลชนต่างๆ
แน่นอนหากท่านลงทะเบียนบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 ผ่านแล้ว ก็ยังสามารถรับสิทธิ์ต่อไปได้
กรณีบัตรคนจนเดือนมีนาคม 2566 มีปัญหาสามารถติดต่อไปยังหน่วยงานที่ดูแลได้เลย
