การตรวจวินิจฉัยทางภูมิคุ้มกันน้ำเหลืองในผู้ป่วย fascioliasis โดยวิธี dot-enzyme immunoassay (dot-EIA) ได้พัฒนาขึ้นโดยใช้แอนติเจนน้ำหนัก โมเลกุล 27 kDa จากสารขับถ่ายคัดหลั่งของพยาธิใบไม้ตับ ~iFasciola gigantica~i ที่ทำให้บริสุทธิ์ด้วยวิธี continuous elution sodium dodecyl sulfate polyacrylamide gel electrophoresis ด้วยเครื่อง Prep Cell (Model 491, Bio-Rad) การ ทดสอบใช้แอนติเจนที่มีความเข้มข้น 50 นาโนกรัม/2 ไมโครลิตร/จุด หยุดลงบนแผ่น เซลลูโลสแล้วทำปฏิกิริยากับซีรัมที่เจือจาง 1:200 จากนั้นนำมาทำปฏิกิริยา กับ goat anti-human IgG ที่ติดฉลากด้วยเอนไซม์ peroxidase เจือจาง 1 : 20,000 ซีรัมของกลุ่มทดสอบประกอบด้วยซีรัมจากผู้ป่วยโรค Fascioliais gigantica จำนวน 10 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อปรสิตอื่น จำนวน 123 รายและซีรัมคนปกติจำนวน 33 ราย โดยมีค่าความชุกของโรคเท่ากับ 6.02% เมื่อใช้ค่า cut-off ที่ผล การทดสอบมากกว่าหรือเท่ากับ 2+ เป็นผลบวก พบว่า ค่าความไว ค่าความจำเพาะ คำทำนายผลบวก และค่าทำนายผลลบของการทดสอบเป็น 100%, 98.07%, 76.92% และ 100% ตามลำดับ พบปฏิกิริยาคาบเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคพยาธิใบไม้ปอด paragonimiasis 2 รายจาก 19 ราย คิดเป็น 10.53% และผู้ป่วยโรค cysticercosis 1 รายจาก 5 ราย คิดเป็น 20% อีกทางเลือกหนึ่ง เมื่อใช้ค่า cut-off ที่ผลการทดสอบมากกว่า หรือเท่ากับ 3+ เป็นผลบวก พบค่าความไว ค่าความจำเพาะ ค่าทำนายผลบวกและ ค่าทำนายผลลบในการทดสอบ เป็น 70%, 100%, 100% และ 98.11% ตามลำดับ จากการศึกษาครั้งนี้พบว่าแอนติเจนชนิดสารขับถ่ายคัดหลั่งที่มีน้ำหนักโมเลกุล ประมาณ 27 kDa น่าจะเป็นแอนติเจนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการใช้ตรวจ วินิจฉัยทางภูมิคุ้มกันน้ำเหลืองในผู้ป่วยโรค fascioliasis ซึ่งมีสาเหตุ จากพยาธิใบไม้ตับ ~iF. gigantica~i นอกจากนี้วิธี dot-EIA ยังมีขั้นตอนการ ทดสอบที่ง่าย และมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำไปใช้ในการวินิจฉัยโรคภาคสนาม