วิทยานิพนธ์ (นศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึง (1) ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อม กับปัจจัยนำเข้าของธุรกิจตัวแทนโฆษณาขนาดกลางและขนาดย่อม (2) ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมกับปัจจัยนำออกของธุรกิจตัวแทนโฆษณาขนาดกลางและขนาดย่อม (3) ความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการบริหาร และปัจจัยนำออกของธุรกิจตัวแทนโฆษณาขนาดกลาง และขนาดย่อม และ (4) แนวทางในการบริหารปัจจัยต่างๆ เพื่อให้องค์กรหรือระบบ อยู่รอด และประสบความสำเร็จ โดยการสัมภาษณ์เจ้าของและผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจตัวแทนโฆษณาในขนาดกลางจำนวน 5 แห่งและในขนาดย่อมจำนวน 6 แห่ง ผลการวิจัยพบว่าสภาวะแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อธุรกิจตัวแทนโฆษณามากที่สุดคือ สภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจรองลงมาคือการเงิน กฎหมาย วัฒนธรรมต่างชาติ การเมือง และคู่แข่ง ปัจจัยนำเข้าเดียว ที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจตัวแทนโฆษณาไม่ว่าจะเป็นบริษัทตัวแทนโฆษณาในขนาดกลาง หรือขนาดย่อมคือปัจจัยด้านบุคลากร สภาวะแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อปัจจัยนำเข้าของบริษัทตัวแทนโฆษณาคือการแย่งตัวบุคลากรซึ่งเป็นปัจจัยนำเข้าที่สำคัญที่สุด การศึกษาและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมจะก่อให้เกิดปัจจัยนำออกที่ดี การบริหารที่เป็นระบบจะก่อให้เกิดปัจจัยนำออกที่ดี การที่จะอยู่รอดและเติบโตสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีคือ (1) เติบโตด้วยตนเอง (2) Merge กับบริษัทต่างชาติ บริษัทตัวแทนโฆษณาควรมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อที่จะได้อยู่รอด อีกทั้งต้องแสวงหาวิธีการต่างๆเพื่อที่จะลดต้นทุนลง เพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุด รักษาลูกค้าให้อยู่กับบริษัทตลอดไป หาทางเอาชนะคู่แข่ง ทำงานอย่างมืออาชีพ มาตรฐานของตัวเองให้สูงขึ้น ต้องเข้าใจตลาดอย่างชัดเจน เกาะติดในส่วนของ นวัตกรรมใหม่ๆ สื่อใหม่ๆ Trend ของตลาด ซื่อสัตย์กับลูกค้า ไม่โลภ และเมื่อถึงเวลาอาจจะต้องพัฒนาแตกสาขาเพื่อที่จะขยายตัว